อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 7/5 วันที่ 17 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 7/5 วันที่ 17 ก.พ. 56

“เราเป็นลูกผู้ชาย เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นแล้ว จะพูดกับใครอย่างที่เจ้าพูดไม่ได้ พูดไปใครเขาจะฟัง ใครเขาจะเชื่อ”
ขุนพิทักษ์อึ้ง แล้วเถียง
“แต่มันเป็นเรื่องจริง”
คุณหญิงมณีสวนกลับ
“เรื่องจริงก็คือ ตอนนี้ใครๆ เค้าก็รู้เรื่องของลูกกับหนูรำพึงกันไปทั่วแล้ว เว้นแต่แม่ที่เพิ่งจะรู้อยู่เดี๋ยวนี้ และเมื่อแม่รู้ แม่ก็คงจะทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่ได้เด็ดขาด”

“ไม่นะครับคุณแม่ กระผมไม่ได้รักน้องรำพึง”
“ว่าไงนะ”
“กระผมไม่ได้รักน้องรำพึง กระผมรักชุ่ม”
คุณหญิงมณีรู้อยู่แล้ว แต่ก็มิวายสะอื้นเพราะรู้ถึงความวุ่นวายที่จะต้องเกิดขึ้น



“โธ่! ขุนพิทักษ์”
ขุนพิทักษ์เอะใจ
“ชุ่มรู้เรื่องนี้รึยังขอรับ”
คุณหญิงถอนใจ ไม่ตอบ
ขุนพิทักษ์มองไปที่แจ่ม
“แจ่ม”
แจ่มหลบตา ไม่อยากยุ่ง ขุนพิทักษ์วิ่งพรวดออกไปทันที คุณหญิงมณีร้องเรียกตามหลัง
“ขุนพิทักษ์ กลับมาคุยกับแม่ก่อน ขุนพิทักษ์”
ไม่ทันแล้ว คุณหญิงมณีถอนใจเฮือก แจ่มเข้าบีบนวดทั้งที่ตัวเองก็กังวลไม่แพ้กัน

มุมหนึ่งในอาณาบริเวณเรือนคุณหญิงมณี ชุ่มนั่งหน้าเศร้านึกถึงเรื่องขุนพิทักษ์กับรำพึง น้ำตาหยดติ๋ง
ขุนพิทักษ์วิ่งเข้ามาหยุดมอง ดีใจที่เจอชุ่ม รีบวิ่งมากอดด้านหลังไว้แน่น
“อยู่นี่เอง ข้าตามหาเจ้าแทบแย่”
ชุ่มหันหน้ามามองขุนพิทักษ์
ขุนพิทักษ์ชะงักไป
“เจ้าร้องไห้”
ชุ่มไม่พูดอะไร นั่งนิ่งอย่างเจียมตัว ขุนพิทักษ์เช็ดน้ำตาให้ชุ่ม
“เจ้าจะร้องไห้ทำไมชุ่ม เก็บน้ำตาไว้ร้องไห้ถ้าข้าไม่ได้รักเจ้าดีกว่า ข้ารักเจ้านะชุ่ม”
ชุ่มอึ้ง แอบชื่นใจ แต่มิวายเจียมตัว
“ข้าเป็นเพียงนางทาส ข้าไม่อาจเอื้อม”
ขุนพิทักษ์พูดสวนทันที
“อาจเอื้อมอะไร ข้าต่างหากที่เป็นคนอุ้มชูเจ้าขึ้นมา ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร เป็นนางทาสรึว่าเป็นนางฟ้า ข้ารู้แต่ในใจของข้า...มีแต่เจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“แต่...คุณรำพึง”
ขุนพิทักษ์สวน เสียงกร้าว
“ชาตินี้...ข้าไม่มีวันแต่งงานกับน้องรำพึง”
ขุนพิทักษ์พูดอย่างเด็ดเดี่ยวมั่นใจ ชุ่มมองหวั่นๆ

เช้าวันใหม่ ที่เรือนคุณหญิงมณี พระยาเทวราชวางดาบกระแทกลงบนโต๊ะปัง
“ต้องแต่ง! ยังไงขุนพิทักษ์ก็ต้องแต่งกับรำพึงลูกสาวข้า”
ทุกคนนั่งอยู่ด้วยกัน
“หรือคุณหญิงมณีจะเห็นว่า การที่ลูกชายของคุณหญิงทำให้ลูกสาวของข้าเสื่อมเสียนั้น มันเป็นเรื่องถูกเรื่องดี ที่ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ”
“แต่น้องรำพึงเป็นคน...”
คุณหญิงมณีรีบแทรก
“แม่หนูรำพึงเป็นผู้หญิงก็ย่อมเสียหาย”
“ใช่! เสียหายแน่ และตอนนี้ชาวบ้านมันก็ติฉินนินทากันไปทั่วแล้ว ไม่แว่วเข้าหูคุณหญิงเลยซักนิดเชียวรึ”
“เอ่อ...”
“ถ้างั้นจะรออะไร จะรอให้ข้าต้องอับอายขายหน้าไปกว่านี้อีกแค่ไหน อย่าลืมว่าถ้าข้าเสื่อมเสีย ใครอีกหลายๆ คน ก็คงจะต้องพลอยย่อยยับไร้อนาคตไปด้วย รึคุณหญิงเห็นว่าไม่จริง”
ขุนพิทักษ์ไม่ชอบฟังคำขู่ ทำท่าจะเถียง
“จริงค่ะ ที่ท่านพระยาพูดมาทั้งหมดล้วนจริงทั้งสิ้น”
“คุณแม่!”
รำพึงอมยิ้ม อีกมุมหนึ่ง ชุ่มยกสำรับของว่างขึ้นเรือนมา พระยาเทวราชพอใจ
“งั้นก็ดี ข้าหวังว่าคุณหญิงจะเร่งกู้ศักดิ์ศรีคืนให้แก่ข้า ด้วยการจัดการมาสู่ขอรำพึงลูกสาวข้าโดยเร็วที่สุด”
ชุ่มตกใจ มือสั่นหลบอยู่ที่มุม
“คุณแม่ขอรับ”
“ท่านพระยาอย่าได้กังวล ดิฉันจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องโดยเร็วที่สุด”
“คุณแม่”
ชุ่มใจหายวูบ รำพึงยิ้มให้ขุนพิทักษ์อย่างสะใจ คุณหญิงมณีพูดกับรำพึง
“ส่วนหนูรำพึง”
รำพึงรีบหุบยิ้ม ตีหน้าเศร้าทันที
“ก็ขอให้เชื่อใจว่าขุนพิทักษ์จะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป”
รำพึงสีหน้าเศร้า สำรวม เข้ากราบคุณหญิงก่อนหันหน้ามาหาขุนพิทักษ์
“กราบขอบพระคุณคุณหญิงป้า... กราบขอบพระคุณคุณพี่ที่ให้เกียรติดิฉัน”

รำพึงสบตาขุนพิทักษ์อย่างผู้มีชัยชนะ ขุนพิทักษ์...หมดหนทาง
ทันใดนั้นเสียงของหล่นแตกดังเพล้ง! ทุกคนตกใจหันไปมองเห็นชุ่มยืนตัวสั่น ทำข้าวของหล่นมือ

“ชุ่ม” ขุนพิทักษ์ตกใจจะลุกไปช่วย แต่รำพึงลุกขึ้นก่อน
“น้องเองดีกว่าค่ะคุณพี่”
รำพึงจ้องขุนพิทักษ์ตาวาว
“อย่า...”
คุณหญิงมณีเสียงแข็งปรามลูกชาย ก่อนหันไปพูดกับรำพึง
“ขุนพิทักษ์! ...ไม่ต้องลำบากหรอกจ้ะหนูรำพึง ปล่อยให้เด็กๆ มันจัดการ … แจ่ม”
“เจ้าค่ะ”
รำพึงรีบขัดบอก
“ขอรำพึงช่วยดีกว่าค่ะคุณหญิงป้า ไหนๆ อีกหน่อย รำพึงก็ต้องมาช่วยคุณหญิงป้าแบ่งเบาภาระในเรือนนี้อยู่แล้ว วันนี้ก็ขอให้รำพึงได้เริ่มจัดการซะเลยนะคะ”
คุณหญิงมณีจำใจพยักหน้า รำพึงยิ้มให้ขุนพิทักษ์ก่อนจะเดินไปหาชุ่ม
รำพึงตาวาว เสียงหวานแกล้งเอ็นดู
“โถ...นังชุ่ม อ่อนหัดจริงๆ นะเอ็ง”
ชุ่มรีบก้มลงเก็บเศษจานชาม รำพึงตามลงไปก้มเก็บ รำพึงเข้ากระซิบใกล้หู น้ำเสียงเยาะเย้ย
“แกกับข้าน่ะมันกระดูกคนละเบอร์ อย่าสะเออะมาเทียบชั้นกับคนอย่างข้า”
รำพึงเอาเศษจานทิ่มมือชุ่มหน้าตาเฉย
“โอะ”
“อย่าร้อง! หุบปากให้สนิท ตั้งแต่วันนี้และตลอดไป ไม่อย่างนั้น มันจะไม่แค่นี้แน่”
ชุ่มมองรำพึงอย่างไม่อยากเชื่อ แจ่มเข้ามา
“ให้แจ่มจัดการดีกว่าเจ้าค่ะ ว๊าย! นังชุ่มเลือดออก”
ขุนพิทักษ์รีบปรี่มาหา รำพึงรีบผละออก
“เกิดอะไรขึ้น”
“โถ...น่าสงสาร ชุ่มนี่ช่างซุ่มซ่ามจริงๆ”
“ชุ่ม...เกิดอะไรขึ้น” ขุนพิทักษ์ถาม
ชุ่มอ้ำอึ้ง
“เอ่อ...”
รำพึงจ้องไม่วางตา
“ชุ่มซุ่มซ่ามเองเจ้าค่ะ”
“แจ่ม...พาชุ่มไปใส่ยา เอายาฝรั่งบนเรือน”
รำพึงตาเขียว
แจ่มอ้ำอึ้ง
“เอ่อ...”
“ไปเดี๋ยวนี้”
“เจ้าค่ะ”
แจ่มรีบพาชุ่มออกไป
ขุนพิทักษ์มองตามก่อนจะหันมามองรำพึงที่รีบปรับอารมณ์ยิ้มแย้ม รำพึงส่ายหน้ายิ้มเอ็นดู
“ซุ่มซ่ามอย่างนี้ เห็นที...น้องจะต้องอบรมวิชานังชุ่มให้หนัก”
เสียงหวานๆของรำพึงเปลี่ยนเมื่อถามขุนพิทักษ์
“จริงมั้ยคะ..คุณพี่”
ขุนพิทักษ์จ้อง รำพึงจ้องตอบอย่างไม่กลัว

มุมหนึ่งในเรือน แจ่มจูงชุ่มจะไปใส่ยา ปากก็บ่น
“เฮ้อ! นังชุ่มนะนังชุ่ม ซุ่มซ่ามจริงๆนะเอ็ง”
ชุ่มเบรกไว้แล้วหยุดเดิน
“ป้าแจ่มจ๊ะ”
“อะไรอีกล่ะ จะพาไปใส่ยาฝรั่ง”
“แผลนิดเดียว”
“นิดเดียวที่ไหนวะ ก็ลึกอยู่นะนั่น”
“ชั้นกลับไปใส่ยาของแม่ดีกว่า ชั้นว่า ยาฝรั่งมันไม่เหมาะกับพวกเราหรอก”
แจ่มอึ้งแล้วพยักหน้า
“รู้ก็ดี รู้ว่าอะไรเหมาะ อะไรไม่เหมาะกับคนอย่างเราก็ดีแล้วนังชุ่ม ชีวิตเอ็งจะได้ไม่เดือดร้อน”

ชุ่มสีหน้าเศร้า เจียมตน เข้าใจที่แจ่มพูด
ภายในห้องนอน รำพึงทิ้งตัวลงนั่งแล้วหัวเราะเสียงลั่น

“สะใจ!สะใจข้าจริงๆ นังจวง”
“เจ้าค่ะ ทูนหัวของบ่าว บ่าวก็สะใจจริงๆ”
“สะใจอะไรของเอ็ง เอ็งรู้อะไรด้วยห๊านังจวง”
จวงได้ที
“ก็ไม่รู้น่ะสิเจ้าคะ เลยอยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้ว คุณรำพึงกรุณาบอกจวงเถอะนะเจ้าคะ ถือว่าเอาบุญ เมตตาลูกนกลูกกาตัวดำๆ เอ๊ย! ตาดำๆ”
รำพึงเชิดหน้า
“ได้ ข้าจะบอกเจ้าเอาบุญก็ได้”
จวงรีบสาระแน
“หน้าตาอย่างนี้ น้ำเสียงอย่างนี้ ต้องเป็นข่าวดีแน่ๆ”
รำพึงมองค้อน แต่อมยิ้ม
“สาระแนจริงๆ แต่เจ้าก็ฉลาดใช้ได้ สมเป็นคนใกล้ชิดของข้า”
จวงก้มกราบบอก
“เป็นพระคุณอย่างสูงเจ้าค่ะ ว่าแต่ข่าวดีอะไรเจ้าคะ จวงจะอกแตกตายอยู่แล้ว”
รำพึงหัวเราะชอบใจ
“ข่าวดีก็คือ...คุณพี่พิทักษ์จะมาสู่ขอข้าโดยเร็วที่สุด”
จวงกระโดดตัวลอยร้อง
“ไชโย ๆ ในที่สุดทูนหัวของบ่าวก็เป็นผู้ชนะ ไชโยๆ”
รำพึงชอบใจ
“ใช่ ข้าเป็นผู้ชนะ และก็จะต้องชนะตลอดไป ไม่มีวันแพ้”
รำพึงหมายมั่น ท่ามกลางจวงที่ดีใจไม่เลิก

วันใหม่ … ขุนไวโมโหมากเมื่อลูกน้องเข้ามารายงาน
“เป็นไปไม่ได้ คนอย่างข้าไม่มีทางพ่ายแพ้ต่อไอ้ขุนพิทักษ์”
ขุนไวหันมาต่อยลูกน้องจนล้มคว่ำแล้วบอก
“โกหก! เอ็งโกหก”
“ข้าไม่ได้โกหกนะขอรับ ผู้คนร่ำลือกันให้ทั่วว่าขุนพิทักษ์จะไปสู่ขอคุณรำพึง”
ขุนไวลั่น
“ไม่จริง ถึงไอ้ขุนพิทักษ์มันจะยกขันหมากไปสู่ขอจริงอย่างที่เอ็งว่า แต่มันก็คงจะต้องยกกลับ เพราะน้องรำพึงและท่านพระยาคงไม่มีวันยอมรับขันหมากของมัน”
“เอ่อ...ข่าวว่าท่านพระยาเป็นผู้พาคุณรำพึงไปเจรจากับขุนพิทักษ์ถึงเรือนคุณหญิงมณีเองเลยนะขอรับ”
ขุนไวชะงักกึก
“อะไรนะ เอ็งว่าไงนะ”
ลูกน้องหน้าแหย เห็นอาการขุนไวแล้วไม่กล้ารายงานต่อ ได้แต่ทำตัวลีบหงอ
“ท่านพระยา...น้องรำพึง”
ขุนไวโกรธจัด พรวดออกไป

ขุนไวจ้ำอ้าวๆ เข้ามาเรือนพระยาเทวราชอย่างเอาเรื่อง จวงโผล่มาเห็นก็ยิ้มแฉ่งแล้วนึกได้
“ขุนไวมา แหม...หัวกะไดไม่แห้งจริงๆ ทูนหัวของบ่าว เฮ่ย!ขุนไวมา แย่แล้ว”
จวงหันหลังจะวิ่งออก ขุนไวถึงตัวเรียกเสียงลั่น
“จวง!”
จวงหงายเงิบเบรกเอี๊ยด
“แย่แล้วๆ”
ขุนไวเข้ามาใกล้ถาม
“น้องรำพึงอยู่ไหน”
จวงค่อยๆ หันมา
“แฮ่...คุณรำพึงอยู่ … อยู่ไหนน้า”
ขุนไวไม่ขำ ถามย้ำเสียงเข้ม
“ข้าถามว่าน้องรำพึงอยู่ไหน”
“อูย...คุณรำพึงอยู่ อยู่...”
ขุนไวไม่ฟังเดินพรวดออกไป
“ว้าย! เดี๋ยวเจ้าค่ะ ท่านขุน ท่านขุน แย่แล้ว...ทูนหัวของบ่าว”

จวงรีบพรวดตามออกไปอย่างระทึกขวัญ
ขุนไวเปิดประตูห้องรำพึง ซึ่งรำพึงกำลังอารมณ์ดีๆ อยู่ หันมาสะดุ้งเฮือก

“คุณพี่!”
ขุนไวหน้าตาเอาเรื่อง
“ใช่ พี่เอง”
ขุนไวจะปรี่เข้ามาเอาเรื่อง แต่รำพึงถลาเข้าไปกอดขุนไวแน่น บีบน้ำตาปล่อยโฮ
“ช่วยน้องด้วย คุณพี่ต้องช่วยน้องนะคะ”
ขุนไวชะงักอึ้งไป รำพึงช้อนตาอ้อน
“รับปากน้องสิคะ คุณพี่เคยสัญญากับน้องว่าจะทำให้น้องทุกอย่างไม่ใช่เหรอคะ คุณพี่ต้องช่วยน้องนะคะ” รำพึงพูดปนเสียงสะอื้น
ขุนไวอ่อนยวบลงทันที
“ช่วยสิ พี่ต้องช่วยน้องรำพึงทุกอย่าง ว่าแต่... น้องรำพึงต้องเล่าให้พี่ฟังก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ขุนไวรอฟัง รำพึงใช้สมองอยู่ว่าจะกุเรื่องอย่างไรดี จวงโผล่พรวดเข้ามาเห็น 2 คนกอดกันอยู่ก็ตกใจ
“คุณพระช่วย!”
รำพึงทำตาวาวใส่ พูดไม่ออกเสียงไล่ให้จวง “ออกไป !”
“เอ่อ...แฮ่! ท่านขุนไวหาคุณรำพึงเจอแล้ว จวงขอตัวนะเจ้าคะ”
จวงรีบออกไปอย่างเร็ว
ขุนไวเร่ง
“ว่ายังไง ตกลงเรื่องราวมันเป็นยังไง ที่คนเค้าพูดว่าท่านพระยา พาน้องรำพึงไปหาไอ้ขุนพิทักษ์ที่เรือนคุณหญิงมณีจริงรึเปล่า”
รำพึงปล่อยโฮใหม่ทันที
“อย่านะคะ คุณพี่อย่าโกรธคุณพ่อนะคะที่ท่านบังคับจิตใจน้องขนาดนั้น”
“ว่าไงนะ ท่านพระยาบังคับจิตใจน้องรำพึง”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 7/5 วันที่ 17 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager