อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 6/2 วันที่ 13 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 6/2 วันที่ 13 ก.พ. 56

“ลูกท้าดวลกับไอ้ขุนไวขอรับคุณแม่”
คุณหญิงมณี หันมาหาด้วยความเป็นห่วง
“พิทักษ์ !ท้าดวลอะไรกัน”
คุณหญิงสีหน้าโมโหหันมาทางชุ่ม
“เรื่องสำคัญแบบนี้ ทำไมเอ็งถึงไม่บอกข้า นังชุ่ม!”
“บ่าว”

ขุนพิทักษ์เอื้อมมือไปจับมือคุณหญิงมณีอย่างยากลำบาก
“คุณแม่ขอรับ...ลูกเอง ลูกเป็นคนสั่งห้ามไม่ให้ชุ่มบอกคุณแม่”
คุณหญิงมณีน้ำตาหยดหันมองขุนพิทักษ์


“สิ้นคุณพ่อ แม่ก็เหลือลูกคนเดียว ถ้าลูกเป็นอะไรไป แล้วแม่จะอยู่ยังไง”
ขุนพิทักษ์เห็นน้ำตาของคุณหญิง
“ลูกขอโทษ ลูกไม่คิดว่าจะมีพวกโจรป่ามาดักทำร้ายลูก”
“โจร!”
“ลูกดีขึ้นเมื่อไหร่ ลูกจะจัดการพวกมันอย่างสาสม” ขุนพิทักษ์พูดอย่างลำบาก
“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลย โชคดีเหลือเกินที่ชุ่มมาช่วยลูกไว้ได้ทัน”
ขุนพิทักษ์มองชุ่มอย่างมีความหมาย

แจ่มกับสมเดินกลับเข้ามาพร้อมกับห่อยา
“สม แจ่ม ช่วยกันพาลูกข้าไปเรือนใหญ่”
แจ่มกับสมเข้ามาจะประคองพิทักษ์ฯ แต่แค่ขยับพิทักษ์ฯ ก็ร้องลั่น
“อ๊าก”
ชุ่มมองที่อกขุนพิทักษ์อย่างตกใจ
“เลือด!”
ทุกคนมองเห็นเลือดไหลออกมาจากแผล สีหน้าขุนพิทักษ์เจ็บปวดมาก คุณหญิงมณีตกใจ
“วางลูกข้าลงก่อน!”
สมกับแจ่มรีบวางขุนพิทักษ์ให้นอนลง ชุ่มรีบนำผ้ามาเช็ดเลือด คุณหญิงมณีดูลูกชายร้องอย่างทรมานจึงตัดสินใจ
“ให้ลูกข้าอยู่ที่เรือนนี้จนกว่าแผลจะสมาน แจ่ม เอ็งคอยดูแลเรื่องยาให้ลูกข้าด้วย”
“เจ้าค่ะ”
ขุนพิทักษ์ เจ็บแต่ไม่วาย
“ไม่ขอรับคุณแม่ ลูกรำคาญเสียงนังแจ่มมัน”
คุณหญิงมณีถอนใจหันไป
“ไอ้สม”
“ไอ้สมมันมือหนัก ลูกไม่ให้ไอ้สมมาดูแลลูกนะขอรับ”
คุณหญิงรู้ทันบอก
“งั้นชุ่ม เอ็งคอยดูแลลูกข้านะ คงพอใจแล้วนะ”

ขุนพิทักษ์นอนเงียบ ชุ่มอึ้งๆ พูดอะไรไม่ออก
ในเวลากลางคืน รำพึงเดินไปมาอยู่ในห้องนอนอย่างกระวนกระวาย จวงพรวดพราดเข้ามาด้วยความรีบร้อน
“นังจวง ได้ความว่ายังไงบ้าง”

“พวกบ่าวที่บ้านท่านขุนพิทักษ์ไม่รู้เรื่องท่านขุนดวลกับขุนไวเลยเจ้าค่ะ แล้วที่เรือนก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
รำพึงคิด
“ถ้างั้นคุณพี่ก็คงจะปลอดภัย แล้วทำไมคุณพี่ถึงไม่มาหาข้า”
“คงอายกระมังเจ้าคะที่พ่ายแพ้ขุนไว”
รำพึงหันขวับ จวงจ๋อยสนิท
“คุณพี่ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ ...ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่”
“แล้วเรื่องที่วันพรุ่งท่านขุนไวจะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอคุณรำพึง คุณรำพึงจะทำยังไงเจ้าคะ”
รำพึงคว่ำถาดปักผ้าใส่จวง
“จะพูดทำไม คนยิ่งใจไม่ดีอยู่”
รำพึงสับสนต้องรีบหาทางออก

ในเวลากลางคืน ที่เรือนท้ายสวน ขุนพิทักษ์นอนหลับเริ่มกระสับกระส่ายเหงื่อซึม และฝันร้ายเพราะพิษไข้ เหตุการณ์ต่อสู้กับโจรป่ากระแทกเข้ามาเป็นช่วงๆ
ชุ่มตกใจรีบเข้ามาข้างขุนพิทักษ์
“ท่านขุน”
ขุนพิทักษ์กระสับกระส่ายหนักจะพลิกตัว ชุ่มตกใจพยายามใช้แขนล็อกไว้ไม่ให้ขยับ แล้วก็ตกใจที่ตัวขุนพิทักษ์ร้อน
“อย่าขยับเจ้าค่ะ เดี๋ยวแผลไม่สมานนะเจ้าคะ... ทำไมตัวร้อนแบบนี้”
ชุ่มรีบใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ดหน้า เช็ดตัวให้ขุนพิทักษ์ ทันทีที่ผ้าสัมผัสที่หน้า ขุนพิทักษ์ก็จับมือของชุ่มไว้แล้วนำไปแนบกับใบหน้า เสียงขุนพิทักษ์ละเมอเรียก
“ชุ่ม...ชุ่ม”
ชุ่มได้ยินก็ชะงักยิ้ม ก่อนจะเช็ดหน้าเช็ดตัวขุนพิทักษ์ด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรัก

สมเดินวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เรือน พลางมองเข้าไปในเรือนอย่างกังวล แจ่มถือถาดยาต้ม เดินเข้ามาที่หน้าเรือน ชุ่มเดินลงมาพร้อมกาละมังรองน้ำ
“ท่านขุนเป็นยังไงบ้างนังชุ่ม”
“ตัวร้อนมากจ๊ะน้าแจ่ม”
“เอ็งรีบเอายาให้ท่านขุนกิน ท่านหมอย้ำนักย้ำหนาว่าท่านขุนต้องกินยาให้ครบเช้าเย็น ไม่อย่างนั้น...”
“ทำไมจ๊ะน้าแจ่ม”
“ก็เห็นว่าไข้มันจะขึ้นหัว หนัก ๆ เข้า ทนไม่ไหวก็ตายกันมานักต่อนักน่ะสิ”
ชุ่มตกใจถาม
“จริงเหรอน้า”
“ข้าก็ไม่รู้ หมอเขาว่าอย่างนั้นนี่ เอ็งต้องให้ท่านขุนกินยาอย่าได้ขาด เข้าใจไหม”
“จ๊ะ”
ชุ่มถือยาจะเข้าไปในเรือน
สมรีบเดินออกมา
“ชุ่ม ! พี่จะเข้าไปช่วยเอ็งเฝ้าท่านขุน”
“ไม่ต้องเลยไอ้สม ขืนเอ็งเข้าไปท่านขุนได้อาละวาดแน่ เอ็งไปช่วยข้าเก็บของที่เรือนใหญ่ดีกว่า”
สมมีท่าทีไม่อยากไป ชุ่มถือยาเข้ามาในเรือน สมยังยืนละล้าละลังอยู่ จนแจ่มต้องหันมาตาม
“เอ้า!หูตึงรึไงไอ้สม ตามข้ามา...เร็ว”
สมจำต้องเดินตามแจ่มไป แต่ยังไม่วายหันกลับมามองน้องสาวอย่างห่วงใย

ในเวลากลางคืน ขุนพิทักษ์กระสับกระส่ายอย่างหนัก ชุ่มพยายามจะเช็ดให้ความร้อนคลายลง
“ร้อน...ปวดหัว..ปวด!”
ชุ่มร้อนใจหันไปเห็นหม้อยา ชุ่มหยิบหม้อมาเทยาใส่ถ้วยแบ่ง แล้วรีบกลับมาประคองขุนพิทักษ์
“กินยานะเจ้าคะ”
ชุ่มเอาถ้วยยาแตะที่ริมฝีปาก ขุนพิทักษ์เบือนหน้าหนีและยังกระสับกระส่ายด้วยพิษไข้
“ท่านขุน กินยาเจ้าคะจะได้หาย”
ยิ่งชุ่มพยายามจะป้อนขุนพิทักษ์ ยิ่งหงุดหงิด
“ไม่....ข้าไม่กิน!”
ขุนพิทักษ์ปัดถ้วยยาทิ้งโดยไม่รู้ตัว ชุ่มไม่ยอมแพ้เทยาใหม่แล้วจะป้อนอีก แต่ขุนพิทักษ์ก็ปัดถ้วยยาทิ้งจนถ้วยยาหล่น ยาหกกระจายหมดถ้วย
“ไม่กิน !”
ชุ่มเก็บถ้วยยาและมองอากาทุรนทุราย ทรมานของขุนพิทักษ์ เสียงของแจ่มลอยเข้ามา
“หมอย้ำนักย้ำหนาว่าท่านขุนต้องกินยาให้ครบเช้าเย็น ไม่อย่างนั้นไข้มันจะขึ้นหัว หนัก ๆ เข้า ทนไม่ไหวก็ตายกันมานักต่อนักน่ะสิ”
ชุ่มมองยาในถ้วยแล้วตัดสินใจใช้ช้อนที่มีอยู่ตักยาแล้วล็อกขุนพิทักษ์จะยัดช้อนป้อนยาให้ได้ ขุนพิทักษ์ไม่ยอมปัดช้อนทิ้ง
“ทนไม่ไหวก็ตายกันมานักต่อนักน่ะสิเอ็ง”
เสียงของแจ่มยังย้ำซ้ำ ๆ ก้องอยู่ในหัวชุ่ม ชุ่มมองขุนพิทักษ์แล้วตัดสินใจดื่มยาซะเองแล้วป้อนยาขุนพิทักษ์ด้วยปากของตนเอง !

ขุนพิทักษ์นิ่งไป รับรู้ได้แค่สติที่เลือนรางเหมือนฝัน
เช้าวันใหม่ ในเรือนท้ายสวน ขุนพิทักษ์นอนหลับสนิท ขุนพิทักษ์ค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นพลางมองไปรอบๆ อย่างลำบากเพราะยังเจ็บแผลอยู่ ขุนพิทักษ์พลิกหน้ากลับมาอีกด้านแล้วชะงัก ที่เห็นชุ่มนอนฟุบอยู่ข้างๆ หลับสนิท
ขุนพิทักษ์มองหน้าอ่อนใสของชุ่มด้วยความรักเอ็นดู
ประตูเปิด คุณหญิงมณีก้าวเข้ามา จวงถือสำรับอาหารเช้าตามเข้ามา
ชุ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นคุณหญิงมณีก็ตกใจรีบขยับถอยหลังออกไป คุณหญิงมณีเข้ามานั่งแทนที่ชุ่ม
“ลูกเป็นอย่างไรบ้าง”
“ยังเจ็บแผลอยู่ขอรับ”
“ชุ่ม เมื่อคืนเอ็งได้ป้อนยาลูกข้าหมดถ้วยหรือเปล่า”
“หมดถ้วยเจ้าค่ะ”
ขุนพิทักษ์มองหน้าชุ่ม คลับคล้ายว่า ชุ่มป้อนยาด้วยปาก แต่ภาพนั้นดูเลือนรางไม่ชัดเจนนัก
ขุนพิทักษ์สบตาชุ่ม ชุ่มหลบตาในทันที ขุนพิทักษ์เริ่มคิดว่าภาพที่เลือนรางนั้นอาจจะเป็นความจริง
“แจ่ม!”
แจ่มขยับสำรับมาตรงหน้าคุณหญิงมณี
“ข้าวต้มเจ้าค่ะ”
คุณหญิงมณีกำลังจัดสำรับจะป้อนข้าว สมเข้ามาในเรือนด้วยท่าทางรีบร้อน
“ท่านขุนขอรับ มีคนจากทางกรมมาขอพบท่านขุนขอรับ”
คุณหญิงมณีมองขุนพิทักษ์
“เดี๋ยวแม่จะไปรับหน้าเอง ชุ่ม เอ็งดูแลลูกข้าให้กินข้าวให้หมดนะ”
คุณหญิงมณีออกไป แจ่มกับสมเดินตามไป เหลือเพียงขุนพิทักษ์กับชุ่มในห้องสองต่อสอง
ขุนพิทักษ์มองชุ่ม
“ชุ่ม...ข้าหิว แต่ข้าตักไม่ไหว”
“แล้วจะให้ทำยังไงเจ้าคะ”
“ป้อนข้าสิ”
ชุ่มมองอย่างอึกอัก ขุนพิทักษ์อ้อนนิดๆ
“เร็วสิ ข้าหิว...”
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ”
ชุ่มจำต้องเข้ามานั่งข้าง ๆ ตักข้าวต้มป้อน ขุนพิทักษ์จ้องชุ่มจนชุ่มเขิน

เวลาเช้า บนเรือนคุณหญิงมณี คนจากกรมมีสีหน้าตกใจ
“ท่านขุนถูกโจรป่าทำร้าย”
“ตอนนี้ยังต้องนอนรักษาตัว คงไม่สามารถไปรายงานตัวที่กรมได้”
“อาการหนักมากเหรอขอรับ”
คนจากกรมสีหน้าหนักใจ
“ก็คงเป็นเดือนอยู่ กว่าจะทุเลา ดูท่านไม่สบายใจ คงไม่ใช่แค่เรื่องพ่อพิทักษ์ไม่ไปรายงานตัวใช่ไหม”
“ขอรับ ตอนนี้ทางกรมกำลังจะมีงานใหญ่ที่ท่านเจ้ากรมจะมอบหมาย ให้ท่านขุนรับผิดชอบ แต่ท่านขุนก็มาเจ็บแบบนี้ ไม่รู้ว่าท่านเจ้ากรมจะว่าอย่างไร”
“มันเป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ ฉันต้องฝากท่านเรียนท่านเจ้ากรมด้วยนะ”
“ขอรับ”
คนจากกรมไหว้คุณหญิงมณีแล้วเดินออกไป คุณหญิงมณีมองตามสีหน้าเครียด
เวลาเช้า จวงวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้อง รำพึงหันมาอย่างตกใจ
“คุณรำพึงเจ้าคะ คุณรำพึง”
“แตกตื่นอะไรของเอ็งหะ นังจวง!”
“ท่านขุนไวมาแล้วเจ้าค่ะ พาท่านเจ้ากรมมาด้วยเจ้าค่ะ”
รำพึงตกใจ
“แล้วคุณพ่ออยู่บนเรือนหรือเปล่า”
“ท่านพระยาไปที่สวนด้านหลังตั้งแต่เช้า อีกสักพักคงกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”
รำพึงรีบเดินออกไปทันที จวงรีบตามไป

ขุนไวเดินมากับท่านเจ้ากรม รำพึงรีบเดินออกมายกมือไหว้รับหน้า
“เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่ท่านเจ้ากรมมาถึงเรือนของดิฉัน”
“ท่านเจ้ากรมยอมมาเป็นผู้ใหญ่เจรจาสู่ขอน้องรำพึงให้พี่ ทั้งที่พี่เคยทำกิริยาที่ไม่ดีต่อท่าน นับว่าท่านมีความเมตตาจริง ๆ”
“เมื่อผิดแล้วสำนึกฉันก็ไม่คิดถือสา แล้วขอให้ฉันทำเรื่องที่น่ายินดี ฉันย่อมไม่ปฏิเสธ แล้วท่านพระยาอยู่ไหนล่ะ”
รำพึงสบตากับจวงคิด ๆ แล้วตัดสินใจ
“น่าเสียดายจริง ๆ เจ้าค่ะ คุณพ่อไปธุระที่ต่างเมืองกว่าจะกลับคงอีกสองสามวัน”
ขุนไวแปลกใจบอก
“แต่พบกันเมื่อวันก่อน ไม่เห็นท่านพระยาเอ่ยว่ามีธุระ...”
“กะทันหันน่ะค่ะ คุณพี่”
ขุนไว หน้าเสียหันมายกมือไหว้ท่านเจ้ากรม
“กระผมต้องขอประทานโทษด้วยนะขอรับ ที่ทำให้ท่านต้องเสียเวลา”
“ไม่เป็นไร ครั้งหน้าขุนไวก็นัดแนะกันให้เรียบร้อย จะได้ไม่คลาดกันแบบครั้งนี้อีก”
“ขอรับ”

รำพึงสบตากับจวงและยิ้มพอใจ
ขุนไว รำพึง จวง ยืนส่งท่านเจ้ากรมที่ลงเรือที่ท่าน้ำ เรือแล่นออกไป ขุนไวหันกลับมาหารำพึง
“น้องขอโทษนะคะที่ทำให้คุณพี่ต้องเสียหน้า”
“เสียหน้าพี่ไม่กลัว กลัวแต่เสียรู้มากกว่า”
รำพึงสะอึกไป ขุนไวกำลังจะก้าวลงเรืออีกลำ
“ขุนไว”
พระยาเทวราชเดินตรงเข้ามา รำพึงตกใจ
“มีเรื่องอะไร ถึงได้มาตั้งแต่เช้า”
“ท่านพระยาอยู่เรือนเหรอขอรับ”
“ใช่สิ ฉันเพิ่งกลับมาจากสวนท้ายเรือน ไปตรวจดูบ่าวไพร่น่ะ”
รำพึงไปไม่ถูก ขุนไวหันไปมองรำพึง และรู้ทันทีว่ารำพึงโกหกเพื่อหลีกเลี่ยงการสู่ขอ พระยาเทวราชสงสัย
“มีอะไรกันหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ”
ขุนไวหันขวับมองรำพึงพลางกำหมัดแน่น รำพึงหาทางปลีกตัว
“คุณพ่อคะลูกได้หนังสือฝรั่งมา อยากให้คุณพ่อช่วยแนะนำลูกสักหน่อย”
“ดีสิ...ท่านขุนขึ้นเรือนไปดื่มน้ำดื่มท่าก่อนสิ”
รำพึงจ้องไปที่ขุนไวเป็นเชิงว่าอย่า
“ไม่ขอรับ...กระผมคงต้องขอตัว”

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 6/2 วันที่ 13 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager